
10 เมนูอาหารเหนือ อาหารภาคเหลือ เอกลักษณ์ของเมืองล้านนา
เมนูอาหารเหนือ อาหารเหนือเป็น อาหารพื้นเมืองของภาคเหนือ ของประเทศไทย มีลักษณะเด่นคือ ใช้เครื่องเทศและสมุนไพรท้องถิ่นเป็นส่วนประกอบหลัก รสชาติของ เมนูอาหาร เหนือมักเผ็ดร้อน เน้นความหอมของเครื่องเทศและสมุนไพร อาหารเหนือ เป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ นิยมรับประทานในชีวิตประจำวันและในงานบุญต่างๆ อาหารเหนือ จึงเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของภาคเหนือที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์
ประวัติความเป็นมาของอาหารภาคเหนือ จนถึงปัจจุบัน
อาหารของภาคเหนือ มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมการกินของชาวล้านนา ซึ่งสืบทอดมาจากวัฒนธรรมอินเดียและจีน ชาวล้านนานิยมรับประทานข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก และใช้เครื่องเทศและสมุนไพรท้องถิ่นในการปรุงอาหาร เช่น พริก ข่า ตะไคร้ ขมิ้น ใบมะกรูด หอมแดง กระเทียม ยี่หร่า ผักชี เป็นต้น ในช่วงสมัยสุโขทัยและอยุธยา อาหารเหนือได้รับอิทธิพลจากอาหารไทยภาคกลางมากขึ้น ทำให้มีอาหารบางชนิดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น แกงเขียวหวาน แกงพะแนง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม อาหารเหนือยังคงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น นั่นคือ การใช้เครื่องเทศและสมุนไพรท้องถิ่นเป็นส่วนประกอบหลัก อาหารเหนือในปัจจุบัน ในปัจจุบันอาหารเหนือยังคงเป็นอาหารที่นิยมรับประทานในภาคเหนือ และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน มีการเผยแพร่อาหารเหนือไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศไทยและทั่วโลก ทำให้มี ร้านอาหารเหนือ เปิดขึ้นมากมาย
10 สูตรทำ “เมนูอาหารเหนือ” อร่อยแท้จากคนเมือง ลำแต๊ๆเจ้า

ไข่ป่าม
รูปภาพจาก : https://www.pinterest.com/
ไข่ป่าม เป็นอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือของประเทศไทย มีลักษณะเป็นไข่เจียวที่ปรุงสุกด้วยวิธีป่าม โดยเทไข่ลงบนใบตองที่ห่อเป็นกระทงหลายๆ ชั้น แล้วนำไปย่างบนไฟอ่อนๆ คอยเติมน้ำใส่ใบตองชั้นล่างเพื่อไม่ให้ไข่แห้ง มีลักษณะคล้ายไข่เจียวและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของใบตอง
ส่วนผสมของไข่ป่าม ได้แก่
- ไข่ไก่
- เกลือป่น
- ต้นหอมซอย
- พริกหยวกซอย (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำไข่ป่าม
- ตีไข่ไก่ให้เข้ากัน ใส่เกลือป่นและต้นหอมซอยลงไป
- ตัดใบตองเป็นแผ่นขนาดประมาณ 10×10 เซนติเมตร ซ้อนกัน 2-3 แผ่น แล้วพับเป็นกระทง
- เทไข่ลงไปในกระทงใบตอง
- นำไปย่างบนไฟอ่อนๆ คอยเติมน้ำใส่ใบตองชั้นล่างเพื่อไม่ให้ไข่แห้ง
- ย่างจนไข่สุกเหลืองทั้งสองด้าน ตักขึ้นเสิร์ฟ
ไข่ป่ามเป็นอาหารที่มีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าหรืออาหารว่าง คู่กับข้าวเหนียวหรือข้าวสวย

แกงฮังเล
รูปภาพจาก : https://www.pinterest.com/
แกงฮังเล เป็น อาหารไทยภาคเหนือ มีลักษณะเป็นแกงที่เข้มข้น สีส้ม รสชาติเผ็ดร้อน นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียว แกงฮังเลมีต้นกำเนิดจากประเทศพม่า คำว่า “ฮังเล” ในภาษาพม่า แปลว่า “แกง” และ “เล่” แปลว่า “เนื้อสัตว์” แกงฮังเลได้รับความนิยมจากชาวไทยภาคเหนือ และแคว้นสิบสองปันนา ประเทศจีน
ส่วนผสมของแกงฮังเล ได้แก่
- เนื้อหมูหรือเนื้อวัวหั่นชิ้นพอดีคำ
- พริกแกงฮังเล
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำกระเทียมดอง
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำตาลปี๊บ
- น้ำมันพืช
- หอมแดงซอย
- กระเทียมซอย
- ใบมะกรูดซอย
วิธีทำแกงฮังเล
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืช ใส่หอมแดงซอยและกระเทียมซอยลงไปผัดให้หอม
- ใส่พริกแกงฮังเลลงไปผัดจนหอม
- ใส่เนื้อสัตว์ลงไปผัดจนสุก
- ใส่น้ำมะขามเปียก น้ำกระเทียมดอง ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลปี๊บลงไปเคี่ยวจนน้ำแกงข้น
- ใส่ใบมะกรูดซอยลงไป ชิมรสตามชอบ ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟ
แกงฮังเลมีรสชาติเข้มข้น เผ็ดร้อน หอมกลิ่นเครื่องเทศ นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียว แกงฮังเลเป็นอาหารพื้นเมือง ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์

อ่องปู
รูปภาพจาก : https://food.mthai.com/
อ่องมันปู เป็นอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือของประเทศไทย มีลักษณะเป็นอาหารประเภทยำ รสชาติเผ็ดร้อน นิยมรับประทานคู่กับข้าวเหนียว อ่องมันปูมีต้นกำเนิดมาจากคำว่า “อ่อง” ซึ่งเป็นคำพื้นเมืองของชาวล้านนา แปลว่า “ยำ” อ่องมันปูมีส่วนผสมหลักคือมันปู ไข่ไก่ และเครื่องเทศต่างๆ
ส่วนผสมของอ่องมันปู ได้แก่
- มันปู
- ไข่ไก่
- พริกแห้งป่น
- กระเทียมป่น
- หอมแดงซอย
- ผักชีซอย
- เกลือป่น
- น้ำตาลปี๊บ
วิธีทำอ่องมันปู
- แกะมันปูออกจากกระดอง ล้างให้สะอาด
- ใส่มันปูลงในชามผสม ตามด้วยไข่ไก่ พริกแห้งป่น กระเทียมป่น หอมแดงซอย ผักชีซอย เกลือป่น และน้ำตาลปี๊บ คนให้เข้ากัน
- นำไปนึ่งในลังถึงประมาณ 10 นาที
- ตักใส่จานเสิร์ฟ

น้ำพริกหนุ่ม
รูปภาพจาก : https://www.pinterest.com/
น้ำพริกหนุ่ม เป็น น้ำพริกพื้นบ้านของภาคเหนือ ของประเทศไทย ทำจากพริกหนุ่ม หอมแดง และกระเทียม นำมาย่างและโขลกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำปลา และน้ำมะนาว รับประทานกับผักสดและแคบหมู
ส่วนผสม
- พริกหนุ่ม 15 เม็ด
- หอมแดง 9-10 หัว
- กระเทียม 10 กลีบ
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำปลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำพริกหนุ่ม
- ล้างพริกหนุ่ม หอมแดง และกระเทียมให้สะอาด
- นำพริกหนุ่ม หอมแดง และกระเทียม ไปย่างบนเตาถ่านหรือเตาแก๊สจนสุกและเปลือกไหม้
- ปอกเปลือกที่ไหม้ออก
- ใส่พริกหนุ่ม หอมแดง กระเทียม เกลือ น้ำปลา และน้ำมะนาวลงในครก โขลกให้เข้ากันจนเนียน
- ชิมรสตามชอบ

ไส้อั่ว
รูปภาพจาก : https://www.pinterest.com/
ไส้อั่ว เป็น อาหารพื้นบ้านของภาคเหนือ ของประเทศไทย ทำจากเนื้อหมูบดผสมกับเครื่องเทศและสมุนไพรต่างๆ เช่น พริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด ขมิ้น เกลือ และซีอิ๊วขาว นำมายัดใส่ไส้หมูแล้วนำไปย่างจนสุก มีลักษณะเป็นแท่งยาว รสชาติเผ็ดร้อนหอมกลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพร
ส่วนผสม
- เนื้อหมูบด 500 กรัม
- พริกแห้ง 10 เม็ด
- หอมแดง 6 หัว
- กระเทียม 6 กลีบ
- ตะไคร้ 3 ต้น
- ใบมะกรูด 10 ใบ
- ขมิ้น 2 ช้อนแกง
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำไส้อั่ว
- ล้างเนื้อหมูให้สะอาด นำไปบดให้ละเอียด
- ย่างพริกแห้ง หอมแดง และกระเทียมให้สุก
- นำพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ใบมะกรูด ขมิ้น เกลือ และซีอิ๊วขาว ใส่เครื่องปั่น ปั่นให้เข้ากัน
- ใส่เนื้อหมูบดลงไป ปั่นให้เข้ากัน
- นำมายัดใส่ไส้หมู
- นำไปย่างจนสุกเหลือง

ขนมจีนน้ำเงี้ยว
รูปภาพจาก : https://www.pinterest.com/
ขนมจีนน้ำเงี้ยว เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคเหนือของประเทศไทย เป็นอาหารประเภทน้ำแกงที่มีส่วนผสมหลักคือ ดอกงิ้ว เลือดหมู และหมูสับ ใส่เครื่องแกงรสจัดจ้าน รับประทานกับขนมจีนหรือเส้นก๋วยเตี๋ยว นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าหรืออาหารเย็น
ส่วนผสม
- ขนมจีน
- น้ำเงี้ยว
- เครื่องแกงน้ำเงี้ยว
- หมูสับ
- ดอกงิ้ว
- เลือดหมู
- มะเขือเทศ
- น้ำปลา
- เกลือ
- ผักสด เช่น ผักกาดหอม ผักชี แตงกวา และพริกขี้หนูซอย
วิธีทำ
- เตรียมน้ำเงี้ยว โดยนำเครื่องแกงน้ำเงี้ยว กระดูกหมู หรือตีนไก่ และน้ำเปล่า ใส่หม้อต้มจนเดือด
- ใส่หมูสับ ดอกงิ้ว และเลือดหมูลงไปต้มจนสุก
- ปรุงรสด้วยน้ำปลาและเกลือตามชอบ
วิธีทำขนมจีนน้ำเงี้ยว
- ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ขนมจีนลงไปลวกจนสุก
- ตักขนมจีนใส่ชาม ราดน้ำเงี้ยวลงไป
- โรยหน้าด้วยผักสดและพริกขี้หนูซอย

ข้าวซอยไก่
รูปภาพจาก : https://www.pinterest.com/
ข้าวซอยไก่ เป็น อาหารยอดฮิตของภาคเหนือ ของประเทศไทย เป็นอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวน้ำแกงที่มีส่วนผสมหลักคือ เส้นข้าวซอย ไก่ และน้ำแกงรสเผ็ดหอมเครื่องแกง นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าหรืออาหารเย็น
ส่วนผสม
- เส้นข้าวซอย
- ไก่
- เครื่องแกงข้าวซอย
- หัวกะทิ
- หางกะทิ
- น้ำตาลปี๊บ
- น้ำปลา
- เกลือ
- ผักสด เช่น หอมแดงซอย ผักกาดดอง พริกขี้หนูซอย และมะนาว
วิธีทำ
- ทำน้ำแกงข้าวซอย โดยนำเครื่องแกงข้าวซอย หัวกะทิ และหางกะทิ ใส่หม้อต้มจนเดือด
- ใส่ไก่ลงไปต้มจนสุก
- ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และเกลือตามชอบ
วิธีทำข้าวซอยไก่
- ลวกเส้นข้าวซอยให้สุก
- ตักเส้นข้าวซอยใส่ชาม ราดน้ำแกงลงไป
- โรยหน้าด้วยผักสดและพริกขี้หนูซอย

ลาบหมูคั่ว
รูปภาพจาก : https://www.pinterest.com/
ลาบหมูคั่ว เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคเหนือของประเทศไทย เป็นอาหารประเภทลาบที่มีส่วนผสมหลักคือ หมูสับ ข้าวคั่ว พริกลาบ กระเทียม หอมแดง มะนาว น้ำปลา เกลือ และผักสดต่างๆ นิยมรับประทานเป็นกับข้าวหรืออาหารว่าง
ส่วนผสม
- หมูสับ 500 กรัม
- ข้าวคั่ว 1 ถ้วย
- พริกลาบ 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 1 ถ้วย
- มะนาว 1 ลูก
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ผักสด เช่น ผักชี ผักแพรว ต้นหอม และสะระแหน่
วิธีทำลาบหมูคั่ว
- ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ใส่หมูสับลงไปผัดจนสุก
- ใส่ข้าวคั่ว กระเทียมสับ และหอมแดงซอยลงไปผัดให้เข้ากัน
- ใส่พริกลาบลงไปผัดให้เข้ากัน
- ปรุงรสด้วยมะนาว น้ำปลา และเกลือตามชอบ
- ใส่ผักสดลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน

แกงกระด้าง
รูปภาพจาก : https://www.blockdit.com/
แกงกระด้าง เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคเหนือของประเทศไทย นิยมใช้ขาหมูเป็นส่วนประกอบสำคัญ เพราะมีเอ็นอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อนำมาเป็นส่วนประกอบหลักในการแกงจะทำให้แกงข้น หรือกระด้างได้ง่าย ในปัจจุบันมักเติมผงวุ้นลงไปด้วยเพราะผงวุ้นทำให้แกงกระด้างได้ดีและเร็วขึ้น แกงกระด้างมี 2 สูตร คือ
- สูตรแบบเชียงใหม่ จะใส่เครื่องแกงเพียงเล็กน้อย เน้นรสชาติของขาหมูและเอ็น
- สูตรแบบเชียงราย จะใส่เครื่องแกงเข้มข้น สีแดงส้มจากพริกแห้ง
ส่วนผสม
- ขาหมู 1 ขา
- น้ำสะอาด 4 ลิตร
- เครื่องแกงแกงกระด้าง
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- ต้นหอมผักชีสำหรับโรยหน้า
วิธีทำแกงกระด้าง
- ล้างขาหมูให้สะอาด ตัดแต่งส่วนที่ไม่ต้องการออก
- ใส่ขาหมูลงในหม้อ ใส่น้ำให้ท่วม ต้มจนเดือด
- ปรุงรสด้วยเครื่องแกง เกลือ และผงปรุงรส
- เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนขาหมูเปื่อยและน้ำแกงข้น
- โรยหน้าด้วยต้นหอมผักชี พร้อมเสิร์ฟ

แอ่บอ่องออ
รูปภาพจาก : https://www.youtube.com/
แอ่บอ่องออ หรือ แอ๊บสมองหมู เป็นอาหารพื้นบ้านของภาคเหนือของประเทศไทย คำว่า “แอ่บ” หมายถึง การห่ออาหารด้วยใบตอง ส่วนคำว่า “อ่องออ” หมายถึง สมองหมู อาหารชนิดนี้ทำจากสมองหมูสด นำมาห่อด้วยใบตองแล้วนำไปปิ้งหรือย่างจนสุก มีลักษณะเป็นแท่งยาว รสชาติเผ็ดร้อนหอมกลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพร
ส่วนผสม
- สมองหมู 1 หัว
- พริกแห้ง 10 เม็ด
- หอมแดง 6 หัว
- กระเทียม 6 กลีบ
- ตะไคร้ 3 ต้น
- ใบมะกรูด 10 ใบ
- ขมิ้น 2 ช้อนแกง
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำแอ่บอ่องออ
- ล้างสมองหมูให้สะอาด นำไปต้มจนสุก
- ย่างพริกแห้ง หอมแดง และกระเทียมจนสุก
- นำพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ ใบมะกรูด ขมิ้น เกลือ และซีอิ๊วขาว ใส่เครื่องปั่น ปั่นให้เข้ากัน
- ใส่สมองหมูบดลงไป ปั่นให้เข้ากัน
- นำมาห่อด้วยใบตอง
- นำไปย่างจนสุกเหลือง
เสน่ห์ของอาหารเหนือ อาหารเมืองที่ชวนหลงไหล
เสน่ห์ของอาหารเหนือ มีมากมาย ดังนี้
- รสชาติ อาหารเหนือมีรสชาติที่เข้มข้น เผ็ดร้อน หอมกลิ่นเครื่องเทศและสมุนไพร สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวล้านนา
- วัตถุดิบ อาหารเหนือใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติเป็นหลัก เช่น ผักสด เห็ด สัตว์ปีก สัตว์เล็ก ฯลฯ จึงทำให้อาหารเหนือมีคุณค่าทางโภชนาการสูง
- กรรมวิธีการปรุง อาหารเหนือส่วนใหญ่ใช้กรรมวิธีการปรุงแบบดั้งเดิม เช่น ต้ม แกง ผัด ย่าง ฯลฯ จึงทำให้อาหารเหนือมีรสชาติที่กลมกล่อม
- ความหลากหลาย อาหารเหนือมีหลากหลายเมนู แต่ละเมนูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้อาหารเหนือเป็นที่นิยมของคนทุกเพศทุกวัย
นอกจากนี้ อาหารเหนือยังมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นอีกประการหนึ่ง คือ การใช้เครื่องแกงสูตรเฉพาะของชาวล้านนา เครื่องแกงเหนือ มีส่วนผสมของพริก หอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ขมิ้น ฯลฯ นำมาตำหรือบดจนละเอียด แล้วนำไปใช้ปรุงอาหาร จึงทำให้อาหารเหนือมีกลิ่นหอมและรสชาติที่กลมกล่อม หากคุณมีโอกาสได้ลองลิ้มชิม รสอาหารเหนือ คุณจะสัมผัสได้ถึงความเสน่ห์ของอาหารเหนือที่ไม่เหมือนใคร